โรคไซนัส ภูมิแพ้ ริดสีดวงจมูก


มี 4 ชนิด เชื้อรา 2 ชนิด (1 กับ 4) เนื้องอก 2 ชนิด (2 กับ 3)



ชนิดของเชื้อที่เกิดในจมูก แยกเป็น 4 ชนิด ได้แก่
1. คล้ายเปลือกมะระ ชาวบ้านเรียก ริดสีดวงไร จะมีตัวคล้ายๆไรไก่ กัดกินเนื้อเยื่อในจมูก เสียงพูดออกมาไม่ชัด เหมือนคนลิ้นไก่สั้น (ปัจจุบันพบน้อย) หมอแผนปัจจุบันพบ จะบอกว่าเป็นมะเร็งในโพรงจมูก

2. คล้ายเอ็นงอก มีสีขาวขุ่นคล้ายเอ็นหรือสี ลักษณะคล้ายเนื้อลำไย เป็นติ่งเนื้องอก อยู่ตำแหน่งระหว่างตา (ตรงขาวางแว่น)
จะยาวออกมาถึงปลายจมูกและออกมานอกรูจมูก สามารถเกิดขึ้นในหลอดลมและลงไปตามรูเพดานปากได้ด้วย

3. คล้ายเม็ดพุทราสุก ติ่งเนื้อมีสีแดงคล้ำจนถึงม่วง ลักษณะคล้ายเม็ดพุทราสุก เกิดทางด้านปีกจมูกทั้งสองข้าง หัวโตพุ่งเข้าหาดั้งจมูก

4. เนื้อช้ำแปะ เกิดจากเชื้อรา เป็นผื่นช้ำแดงๆปนเหลือง มีหนองปน เกิดขึ้นบริเวณดั้งจมูก เป็นมากๆเลือดไหลได้ จะลามไปทั่วโพรงจมูก ผนังจมูกจะหนา ทำให้รูจมูกแบน มีอาการคัน ขยี้จมูกจะมีกลิ่นคาวๆ

อาการของโรค ไซนัส ภูมิแพ้ ริดสีดวงจมูก



1.มีอาการ แพ้อากาศ ฝุ่นละออง ขนสัตว์ แพ้กลิ่นต่างๆ ดื่มน้ำเย็นมีอาการ

2.มีอาการ จามช่วงอากาศเปลี่ยน(เช้าๆ) คันจมูก ขยี้จมูกมีกลิ่นคาว คันตา คันหู คันใต้เพดานปาก

3.มีน้ำมูกตลอด น้ำมูกไหล ไหลลงคอ น้ำมูกเปลี่ยนเป็นสีเขียวเหลือง มีเสมหะในคอคาอยู่ตลอด ,มีตุ่มในคอ คันคอ ไอ

4.มีอาการ ปวดหัวคิ้ว กระบอกตา ปวดหัวข้างเดียว(คล้ายไมเกรน) เมื่อยต้นคอ

5.มีอาการ คัดจมูกแน่นหายใจไม่ได้ หายใจไม่สะดวก นอนหายใจทางปาก หายใจมีเสียงดัง สะดุ้งตื่นตอนกลางคืนๆละหลายครั้ง อ่อนเพลีย ขอบตาจะเริ่มคล้ำ

6.ลมหายใจมีกลิ่นเหม็น กลิ่นปาก จมูกเริ่มรับกลิ่นไม่ได้ และไม่ได้กลิ่นอะไรเลย

7.เมื่อปล่อยไว้นานจะมีอาการ ปวด บวม ในจมูก และโพรงไซนัส ขึ้นตาได้ ตาบวมแดง (เมื่อมีอาการ ปวด บวม มีกลิ่นเหม็น ไม่ควรปล่อยทิ้งไว้ควรรีบไปพบหมอรับการรักษา ปล่อยไว้ทำให้"ติดเชื้อกลายเป็น มะเร็งได้")


วิธีการรักษา ไซนัส ภูมิแพ้ ริดสีดวงจมูก


    วิธีการรักษา ใช้ยาน้ำสมุนไพร ทา บริเวณติ่งเนื้อ และบริเวณที่ติดเชื้อ ในจมูกแบ่งเป็น 4 ชนิด เนื้องอก 2 เชื้อรา 2 ชนิด โดยทายา 7 วันครั้ง ติดต่อกันที่ 3 ครั้ง  "กี่ครั้งหาย" ขึ้นอยู่กับชนิดที่เป็น เป็นมากหรือเป็นน้อย เป็นน้อยหายได้ภายใน 3 ครั้ง
    ช่วงการรักษา 1-7 วัน ให้ใช้น้ำเปล่าล้างในจมูก ไม่ต้องทานยาใดๆ รวมถึงยาที่หมอเคยให้มา อาการจะดีขึ้นเห็นๆ จนถึงหาย เป็นการรักษา ไม่ใช่บรรเทา


ภาพที่ 1
ก่อนทายาเป็นชนิดคล้ายเอ็นงอก
ภาพที่ 2
การรักษาโดยใช้ยาน้ำสมุนไพรใช้ทาที่หัว
ภาพที่ 3
ภาพเปรียบเทียบภาพติ่งเนื้อข้างซ้าย
ภาพที่ 4
ภาพติ่งเนื้อจมูกข้างซ้ายหายไป จากการทายา


"หายได้เป็นปกติ  ทั้งจมูกและทวาร  ด้วยวิธีการรักษาแบบแผนไทย ขั้นตอนไม่ยุ่งยาก 

ไม่ใช้เข็ม   ไม่ต้องผ่า   ไม่มียาให้ไปกิน  เพียงแค่ใช้ไม้พันสำลีจุ่มยาน้ำสมุนไพรทา"




ภาพที่ 1
ก่อนรักษาริดสีดวงจมูก
ภาพที่ 2
การรักษาโดยใช้ยาน้ำสมุนไพรใช้ทาที่หัว
ภาพที่ 3
การรักษาโดยใช้ยาน้ำสมุนไพรใช้ทาที่หัว
ภาพที่ 4
การรักษาโดยใช้ยาน้ำสมุนไพรใช้ทาที่หัว
ภาพที่ 5
การรักษาโดยใช้ยาน้ำสมุนไพรใช้ทาที่หัว
ภาพที่ 6
การรักษาโดยใช้ยาน้ำสมุนไพรใช้ทาที่หัว
ภาพที่ 7
หลังจากรักษาได้ 15 วัน
ภาพที่ 8
ภาพติ่งเนื้อจมูกข้างซ้ายหายไป จากการทายา
ภาพเปรียบเทียบผลการรักษา ก่อนและหลังการรักษาด้วยยาน้ำสมุนไพรใช้ทา



ภาพที่ 1
ก่อนรักษาริดสีดวงจมูก
ภาพที่ 2
หลังจากรักษาได้ 15 วัน
ภาพที่ 3
หลังจากรักษาได้ 45 วัน
ภาพที่ 4
เว้นดูอาการเพื่อตรวจยืนยันการหาย




การดูแลตัวเองของผู้ป่วย ไซนัส ภูมิแพ้ ริดสีดวงจมูก


    ควรล้างจมูกด้วยน้ำเกลือ 0.9 เปอร์เซ็น(มีขายที่ร้านขายยา) ไว้อย่างน้อยวันละ 2 ครั้ง  เช้า เย็น จะช่วยลดและไม่เกิดกลิ่นเหม็นของลมหายใจ กลิ่นปาก การบวม และช่วยป้องกันการติดเชื้อในโพรงไซนัส ได้ด้วย ควรหลีกเลี่ยง การใช้ยา กิน ยาพ่น ไม่ควรใช้ ติดต่อกันทำให้เกิดการสะสมของยา จะมีผลต่อ ไต กับ ตับ หัวใจ "สเตียรอยด์" จะไปแสดงผลที่เล็บ เมื่อผู้ป่วยใช้มากๆ ควรใช้เมื่อจำเป็น และยาบางตัวใช้มากๆเมื่อหยุดใช้ทำให้ ติ่งเนื้อในโพรงจมูกโตขึ้น